วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ปล้นปืนทหาร สัญญาณแห่งความรุนแรงครั้งใหญ่

คำเตือน: ภาพถ่ายนี้เป็นลิขสิทธิ์ของช่างภาพ ห้ามทำซ้ำหรือนำไปเผยแพร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพ

การ โจมตีฐานที่นราธิวาสเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2554 เป็นตัวเตือนที่น่ากลัว ถึงกลุ่มก่อความไม่สงบในภาคใต้ที่ยังคงมีกำลังที่มีศักยภาพและมีความสามารถ ในการก่อเหตุขนาดใหญ่ และแสดงให้รัฐบาลเห็นว่า การลดระดับความรุนแรงนั้นคงเป็นไปได้ยาก
น่าแปลก การโจมตีในฐานทหาร ในอำเภอระแงะนราธิวาส ในครั้งนี้ต้องสงสัยว่า เป็นการย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีก่อน เมื่อ วันที่ 4 มกราคม 2547 "วันเสียงปืนแตก" โดยคนร้ายก่อเหตุเผาโรงเรียน 20 แห่ง ใน จ.นราธิวาส ซึ่งเชื่อว่าเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อเข้าปล้นปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส การจู่โจมครั้งนี้คนร้ายได้อาวุธปืนของทางราชการไปเป็นจำนวนมากอันมีปืน ไรเฟิล 400 กระบอก ปืนพก 20 กระบอก ปืนกล 2 กระบอก



--

ซึ่ง ปัจจุบัน ก็ยังไม่สามารถเอาคืนกลับมาได้หมด และในเหตุการณ์นั้นมีเจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 4 นาย นั่นทำให้รัฐบาลเสียหน้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ไม่พอใจเป็นอย่างมาก กล่าวตำหนิทหารที่ไม่ระมัดระวัง และถึงกับพูดว่า "ถ้าคุณมีกองทหารทั้งกองพันอยู่ที่นั่น แต่คุณก็ยังไม่ระวังตัว ถ้าอย่างนั้นก็สมควรตาย"

--

การดำเนินงานของคนร้ายที่ก่อเหตุในการโจมตีฐานทหารที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา คนร้ายได้มีการเตรียมการมาอย่างดี โดยน่าจะมีกลุ่มผู้กอ่เหตุในครั้งนี้ประมาณ 50 คนพร้อมอาวุธครบมือ และคาดว่าอาวุธส่วนหนึ่งน่าจะเป็นของทางราชการที่ถูกปล้นไป การดำเนินงานของคนร้ายที่ก่อเหตุในการโจมตีฐานทหารที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา คนร้ายได้มีการเตรียมการมาอย่างดี โดยน่าจะมีกลุ่มผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ประมาณ 50 คนพร้อมอาวุธครบมือ และคาดว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะได้อาวุธไปกว่า 50 กระบอก คือ อาวุธปืนอูซี่ 14 กระบอก เอ็ม 16 A2 30 กระบอก ปืนกลสำหรับติดตั้งบนรถยนต์วีว่า 2 กระบอก กระสุนชนิดต่างๆอีก 4 พันกว่านัด ถูกปล้นไป ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ทหาร 4 นายเสียชีวิตรวมทั้ง ร.อ.กฤช คัมภีรญาณ ผบ.ร้อย ร.15121 ฉก.นราธิวาส ที่ 38 หัวหน้าฐาน และยังมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง

--

เจ้าหน้าที่ของกองทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวถึงการโจมตีในครั้งนี้ว่า เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ภายในฐานกำลังพักผ่อนหลังรับประทานอาหารเย็น เสร็จ กลุ่มคนร้ายได้วางแผนการดำเนินงานมาอย่างดี โดยกระจายกำลังและแบ่งการทำงาน โดยคนร้ายประมาณ 10 คน ได้โจมตีบริเวณด้านฐานซึ่งมีทหารยามอยู่ หลังเกิดเหตุ พบว่าคนร้ายต้องการเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ เพราะทหารส่วนใหญ่รีบมุ่งหน้าไปป้องกันทางด้านหน้าของฐานที่กำลังถูกโจมตี ขณะที่กลุ่มคนร้ายอีกส่วนประมาณ 20 คนเข้าจู่โจมอย่างรวดเร็วโดยบุกเข้ามาทางด้านหลังของฐาน ซึ่งไม่มีการป้องกันอะไรเป็นพิเศษ ทำให้คนร้ายสามารถเข้าโจมตีฐานและขโมยอาวุธปืนของทางการไปได้สำเร็จ

นอก จากนี้ กลุ่มคนร้ายยังได้ทำการสกัดเส้นทางการเดินทางเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ โดยการตัดต้นไม้ขวางถนน โปรยตะปูเรือใบ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องจัดกำลังโดยใช้เฮลิครอปเตอร์บินไล่ล่าคนร้าย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้กระจายกำลังค้นหาไล่ล่า ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนร้าย น่าหลบหนีและกบดานอยู่ในพื้นที่ รวมทั้งควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเข้ามาสอบปากคำ

แม้หลังเกิดเหตุเจ้า หน้าที่พยายามให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน ว่า” ไม่ใช่เป็นการปล้นปืน แต่เป็นการฉกฉวยเมื่อคนร้ายมีโอกาส..” ไม่ว่าจะเป็นการฉกฉวยหรือตั้งใจปล้นก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ๆ ทั้งกองทัพและรัฐบาลดูจะเสียหน้ามาก เพราะจุดที่ถูกโจมตีในครั้งนี้ ถือเป็นกำลังรบซึ่งต่างจากเมื่อ 7ปีก่อน เห็นได้ชัดเจนว่า จุดประสงค์หลักของการโจมตีในครั้งนี้ คือ ความต้องการยึดอาวุธ และการท้าทายอำนาจรัฐบาลโดยแสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังคงมี ศักยภาพและพร้อมที่จะก่อเหตุในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

--

ห่างจากเหตุการณ์คนร้ายถล่มฐานทหารที่ นราธิวาสไม่ถึงสัปดาห์ (25 มกราคม 2554) ความรุนแรงของสถานการณ์ใต้ดูจะวุ่นวายมากขึ้น เมื่อได้เกิดเหตุระเบิดบนถนนสาธารณะ ระหว่างอ.ยะหาและ อ.กาบัง จ.ยะลา แรงระเบิดอานุภาพสูงทำให้รถกระบะขาดสองท่อนมีผู้เสียชีวิตทันทีเจ็ดคนและต่อ มาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีกสองคน รวมมีผู้เสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บอีก 2 คน ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ แต่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาที่เดินทางกลับจากไปหาของป่าในพื้นที่ ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา จากการตรวจสอบทั้งหมดเป็นชาวไทยพุทธ ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา

และในขณะที่ รัฐบาลก็ได้ออกมาประชาสัมพันธ์ ว่า สถานการณ์ดีขึ้น ขณะความรุนแรงที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองอย่างดูจะเป็นเงาในทางกลับกันอย่างสิ้นเชิง

--


แอนโธนี เดวิส (Anthony Davis) นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคง ที่ทำงานให้แก่ ไอเอชเอส-เจนส์ (IHS-Jane''s) กล่าวว่า การโจมตีฐานทหารที่ระแงะนั้น ดูจะเป็นการเปิดเฟส การทำงานใหม่อีกครั้งของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งการก่อเหตุในครั้งนี้คนร้ายมีจุดประสงค์ที่ชัดเจน ซึ่งนอกจากจะเป็นการปล้นอาวุธแล้ว นี่ยังถือการส่งสัญญาณบางอย่างถึงรัฐบาลว่าไม่ควรประมาทพวกเขา

--


ล่าสุด คนร้ายได้วางระเบิดชุดคุ้มครองพระที่ปัตตานี เป็นเหตุเจ้าหน้าที่ทหารรวมทั้งพระสงฆ์ ต่างได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในช่วงเช้า ของวันที่ 28 ม.ค.54 ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวกำลังปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองพระสงฆ์ออกบิณฑบาต มาตามถนนโรงเหล้า ภายในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ แต่คนร้ายสวมหมวกกันน็อกปิดบังทำให้ยากต่อการติดตาม และรวมไปถึงเหตุการณ์ยิงฆ่ารายวันในพื้นที่ 3 จว.ภาคใต้ที่เกิดขึ้นถี่ในเวลานี้

ท่ามกลางศึกทุกด้านที่เข้ามา ประชิดรัฐบาล ดูเหมือนรัฐบาลเองก็ต้องตอบคำถาม ของฝ่ายค้าน ที่ลงความเห็นว่า รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหาภาคใต้ ...

โดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น แต่ก็คงจะไม่สามารถยุติได้ในวันนี้ ``มันไม่ได้เป็นเช่นการปิดไฟ และการก่อความไม่สงบเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายปี [ตั้งแต่ปี 2547]เราจะต้องใช้เวลาในการแก้ไขมัน.''


แนวทางการ เจรจา น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยบรรเทาสถานการณ์ลงได้บ้าง บางคนบอกอาจเสียหน้าถ้าต้องเจรจากลุ่มผู้ก่อการร้าย ที่จริงไม่รู้ว่า กลัวเสียหน้าที่ต้องเจรจา หรือเสียหน้าที่ยังตอบไม่ได้ว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายเป็นใคร จาก “รู้เขารู้เรา” เป็น “เราไม่รู้เขา มีแต่เขาที่รู้เรา” ท่าจะดี...



ที่มาจาก.......http://peace.chaotainews.com/index.php?option=com_content&view=article&id=2058:2011-01-31-08-20-50&catid=6:2008-07-21-09-58-45&Itemid=13.

menambah kesedaran untok umat yang satu tujuan

Jihad di Fathoni semarak menyala


Wajib kita bangkit bangun membela


Berkorban harta jiwa dan raga


Gigih berjuang semangat merdeka


Andai kita tak sanggup berjuang


Umat Fathoni dirantai kehinaan


Umat Fathoni dibelanggu penjajahan


Umat Fathoni dilaknat tuhan


Umat Fathoni jangan lekas putus asa


Sebab Allah bersama kita


Mendaulat hukum Allah di bumi pusaka


Itulah harapan dan cita-cita


Insya Allah bumi Fathoni merdeka


Insya Allah bumi Fathoni Allah redha janganlah simpan untok seorang diri