การ โจมตีฐานที่นราธิวาสเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2554 เป็นตัวเตือนที่น่ากลัว ถึงกลุ่มก่อความไม่สงบในภาคใต้ที่ยังคงมีกำลังที่มีศักยภาพและมีความสามารถ ในการก่อเหตุขนาดใหญ่ และแสดงให้รัฐบาลเห็นว่า การลดระดับความรุนแรงนั้นคงเป็นไปได้ยาก
น่าแปลก การโจมตีในฐานทหาร ในอำเภอระแงะนราธิวาส ในครั้งนี้ต้องสงสัยว่า เป็นการย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีก่อน เมื่อ วันที่ 4 มกราคม 2547 "วันเสียงปืนแตก" โดยคนร้ายก่อเหตุเผาโรงเรียน 20 แห่ง ใน จ.นราธิวาส ซึ่งเชื่อว่าเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อเข้าปล้นปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส การจู่โจมครั้งนี้คนร้ายได้อาวุธปืนของทางราชการไปเป็นจำนวนมากอันมีปืน ไรเฟิล 400 กระบอก ปืนพก 20 กระบอก ปืนกล 2 กระบอก
นอก จากนี้ กลุ่มคนร้ายยังได้ทำการสกัดเส้นทางการเดินทางเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ โดยการตัดต้นไม้ขวางถนน โปรยตะปูเรือใบ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องจัดกำลังโดยใช้เฮลิครอปเตอร์บินไล่ล่าคนร้าย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้กระจายกำลังค้นหาไล่ล่า ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนร้าย น่าหลบหนีและกบดานอยู่ในพื้นที่ รวมทั้งควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเข้ามาสอบปากคำ
แม้หลังเกิดเหตุเจ้า หน้าที่พยายามให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน ว่า” ไม่ใช่เป็นการปล้นปืน แต่เป็นการฉกฉวยเมื่อคนร้ายมีโอกาส..” ไม่ว่าจะเป็นการฉกฉวยหรือตั้งใจปล้นก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ๆ ทั้งกองทัพและรัฐบาลดูจะเสียหน้ามาก เพราะจุดที่ถูกโจมตีในครั้งนี้ ถือเป็นกำลังรบซึ่งต่างจากเมื่อ 7ปีก่อน เห็นได้ชัดเจนว่า จุดประสงค์หลักของการโจมตีในครั้งนี้ คือ ความต้องการยึดอาวุธ และการท้าทายอำนาจรัฐบาลโดยแสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังคงมี ศักยภาพและพร้อมที่จะก่อเหตุในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
และในขณะที่ รัฐบาลก็ได้ออกมาประชาสัมพันธ์ ว่า สถานการณ์ดีขึ้น ขณะความรุนแรงที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองอย่างดูจะเป็นเงาในทางกลับกันอย่างสิ้นเชิง
แอนโธนี เดวิส (Anthony Davis) นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคง ที่ทำงานให้แก่ ไอเอชเอส-เจนส์ (IHS-Jane''s) กล่าวว่า การโจมตีฐานทหารที่ระแงะนั้น ดูจะเป็นการเปิดเฟส การทำงานใหม่อีกครั้งของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งการก่อเหตุในครั้งนี้คนร้ายมีจุดประสงค์ที่ชัดเจน ซึ่งนอกจากจะเป็นการปล้นอาวุธแล้ว นี่ยังถือการส่งสัญญาณบางอย่างถึงรัฐบาลว่าไม่ควรประมาทพวกเขา
ล่าสุด คนร้ายได้วางระเบิดชุดคุ้มครองพระที่ปัตตานี เป็นเหตุเจ้าหน้าที่ทหารรวมทั้งพระสงฆ์ ต่างได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในช่วงเช้า ของวันที่ 28 ม.ค.54 ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวกำลังปฏิบัติหน้าที่คุ้มครองพระสงฆ์ออกบิณฑบาต มาตามถนนโรงเหล้า ภายในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ แต่คนร้ายสวมหมวกกันน็อกปิดบังทำให้ยากต่อการติดตาม และรวมไปถึงเหตุการณ์ยิงฆ่ารายวันในพื้นที่ 3 จว.ภาคใต้ที่เกิดขึ้นถี่ในเวลานี้
ท่ามกลางศึกทุกด้านที่เข้ามา ประชิดรัฐบาล ดูเหมือนรัฐบาลเองก็ต้องตอบคำถาม ของฝ่ายค้าน ที่ลงความเห็นว่า รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหาภาคใต้ ...
โดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น แต่ก็คงจะไม่สามารถยุติได้ในวันนี้ ``มันไม่ได้เป็นเช่นการปิดไฟ และการก่อความไม่สงบเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายปี [ตั้งแต่ปี 2547]เราจะต้องใช้เวลาในการแก้ไขมัน.''
แนวทางการ เจรจา น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยบรรเทาสถานการณ์ลงได้บ้าง บางคนบอกอาจเสียหน้าถ้าต้องเจรจากลุ่มผู้ก่อการร้าย ที่จริงไม่รู้ว่า กลัวเสียหน้าที่ต้องเจรจา หรือเสียหน้าที่ยังตอบไม่ได้ว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายเป็นใคร จาก “รู้เขารู้เรา” เป็น “เราไม่รู้เขา มีแต่เขาที่รู้เรา” ท่าจะดี...
ที่มาจาก.......http://peace.chaotainews.com/index.php?option=com_content&view=article&id=2058:2011-01-31-08-20-50&catid=6:2008-07-21-09-58-45&Itemid=13.